ค่าไฟเพิ่มทุกปี ทำไมโรงงานถึงยังควบคุมไม่ได้?

ค่าไฟเพิ่มขึ้นทุกปี แต่เจ้าของโรงงานจำนวนไม่น้อยยังรู้สึกว่า “ควบคุมไม่ได้” แม้จะพยายามประหยัดพลังงานเท่าที่ทำได้ เช่น เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ หยุดใช้บางช่วงเวลา หรือพยายามลดกำลังการผลิตในช่วง peak แล้วก็ตาม

ค่าไฟสูงขึ้น

ในความเป็นจริง การใช้พลังงานในโรงงานเป็นเรื่องซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่เครื่องจักรหรือหลอดไฟ แต่คือระบบทั้งหมดที่เชื่อมโยงกัน — ตั้งแต่พฤติกรรมของคนทำงาน ไปจนถึงความเสถียรของไฟฟ้าที่จ่ายเข้าระบบ หากไม่มี “ภาพรวม” ที่ชัดเจน การประหยัดใด ๆ ก็กลายเป็นการทำแบบเดาสุ่ม

หนึ่งในเหตุผลที่โรงงานควบคุมค่าไฟไม่ได้คือ ขาดข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงาน หลายแห่งไม่รู้ว่าโหลดไฟสูงสุดเกิดขึ้นตอนไหน อุปกรณ์ตัวไหนใช้ไฟมากเกินไป หรือจุดใดเกิดการสูญเสียพลังงานโดยไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงจากแรงดันไฟไม่คงที่ หรือค่า Power Factor ที่ต่ำเกินเกณฑ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อค่าไฟ แต่กลับไม่เคยถูกมองเป็นประเด็นหลักในการบริหารต้นทุน

ทำไมการลงทุนเทคโนโลยีถึงไม่ช่วยเสมอไป?

โรงงานจำนวนมากลงทุนกับโซลาร์เซลล์ เครื่องจักรใหม่ หรือระบบอัตโนมัติ โดยหวังว่าจะช่วยลดค่าไฟได้ทันที แต่หากไม่มีการวางแผนก่อนว่า “จะลดตรงไหน” และ “ลดอย่างไร” การลงทุนเหล่านั้นอาจไม่ได้ช่วยให้ต้นทุนลดลงจริง หรือคืนทุนได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น

ISO 50001

ISO 50001: กรอบคิดที่โรงงานระดับโลกใช้บริหารพลังงาน

องค์กรชั้นนำทั่วโลก เช่น Toyota, Siemens และ Bosch ใช้มาตรฐาน ISO 50001 ในการบริหารจัดการพลังงาน เพราะมันไม่ใช่แค่การติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ แต่คือการสร้างระบบการจัดการที่วัดผลได้จริง โดยใช้หลักการ PDCA – Plan, Do, Check, Act ดังนี้:

• Plan: สำรวจพฤติกรรมการใช้พลังงานในทุกแผนก ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น ลด peak load, ปรับปรุง power factor, หรือลดค่าไฟในช่วงเวลากลางวัน

  
  

• Do: ดำเนินการตามแผน เช่น ติดตั้ง Powersave Unit เพื่อลดความเสียหายจากแรงดันไฟไม่คงที่ ติดตั้ง Airvera Flow+ เพื่อควบคุมคุณภาพอากาศโดยไม่เพิ่มภาระแอร์ หรือติดระบบ Energy Monitoring เพื่อดูโหลดแบบ real-time

  
  

• Check: เปรียบเทียบค่าไฟและพฤติกรรมการใช้พลังงานก่อน-หลังดำเนินการ พร้อมประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน

  
  

• Act: ปรับแผนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้าง baseline ใหม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

  
  

ในหลายกรณี โรงงานที่ไม่สามารถควบคุมค่าไฟได้ มักติดอยู่ที่ “Do” โดยไม่มีการ “Plan” หรือ “Check” ที่ดีพอ ผลลัพธ์จึงไม่ต่างจากการเดินทางโดยไม่มีแผนที่

ทางออกเริ่มต้นที่ข้อมูล ไม่ใช่อุปกรณ์

การประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่ควรเริ่มจากการซื้ออุปกรณ์ แต่ควรเริ่มจาก Energy Audit ที่ละเอียดและแม่นยำ เพื่อให้เห็นว่าโรงงานใช้พลังงานอย่างไร ใช้ตรงไหนมาก ใช้เวลาใด และสูญเสียไปในจุดใด จากนั้นจึงออกแบบแนวทางการประหยัดที่สอดคล้องกับบริบทจริง

Acuity Solutions เชี่ยวชาญในการทำ Energy Audit และออกแบบโซลูชันแบบ Total Energy Optimization พร้อมฝังเทคโนโลยีเช่น Powersave Unit, Load Management, IoT Monitoring และ Airvera Flow+ ให้ตรงจุดและคุ้มค่าการลงทุน

📍 หากคุณเป็นเจ้าของโรงงานและกำลังสงสัยว่า “ค่าไฟที่จ่ายอยู่ทุกเดือน…ควรจะถูกกว่านี้ไหม?”เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้น พร้อมวิเคราะห์พฤติกรรมพลังงานที่ซ่อนอยู่ในระบบของคุณ

ติดต่อทีมงาน Acuity Solutions ได้ที่📞 064 635 3551 | 📩 Line: @acuitysolutions | 🌐 www.acuity-solutions.co.th

#EnergyManagement #ลดต้นทุนไฟฟ้า #ISO50001 #AcuitySolutions #โรงงานประหยัดพลังงาน